วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อะไรคือ เลข IP address ซ้ำ

วันสองวันนี้ที่ทำงานเกิดปัญหาเรื่องใช้อินเทอร์เน็ตกันไม่ได้ แต่จะว่าไปไม่ใช่แค่อินเทอร์เท่านั้น ระบบเครือข่ายใช้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป คนที่ใช้คอมฯบอกว่า พอเปิดเครื่องมาก็ใช้ไม่ได้ รูปคอมข้างล่างเป็นเครื่องหมายตกใจสีเหลือง

ตอนแรกก็คิดว่าคงมีปัญหาที่เครื่องลูก แต่เอ๊ะ สักพักมีคนบ่นมากขึ้น เลยรู้สึกชักยังไงๆ เพราะตอนแรกคนกลุ่มแรกที่บ่นคือคนที่ใช้ wifi แต่นี่มาบ่นเครื่อง desktop ก็เลยเข้าเค้าว่าน่าจะมีปัญหาจากระบบ ก็ไปตรวจดูที่เครื่องลูกพบว่า network icon แสดงสถานะเป็น caution จริงๆ นั่นแปลว่ามีการเสียบสาย LAN ผ่าน switch คือสายไม่มีปัญหา แต่อาจมีปัญหาเรื่อง configuration ครับ

อย่างแรกที่ทำคือตรวจดูว่า network เชื่อมต่อกันหรือไม่ โดยใช้วิธีง่ายคือคำสั่ง ping ไปที่ router ปรากฎว่าไม่ไป อ้าว...งานเข้า อย่าพึ่งท้อแท้ครับ ลอง ping ตัวเอง (127.0.0.1) ว่าการ์ด LAN ไม่เสีย ปรากฎว่าได้ คราวนี้เลยเข้าไปดู IP ของเครื่องละครับ เพราะถ้าเครื่องไม่สามารถรับ IP จาก router ได้ ก็ไม่เเปลกที่จะใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น IP น่าจะขึ้นด้วย 169.x.x.x

แท๊นๆๆ....ปรากฎว่าไม่ใช่ครับ มันขึ้นต้อนด้วย 192.x.x.x เอาละสิ...IP ที่ office ใช้เป็น IP ที่ขึ้นด้วย 10.x.x.x แล้วมันไปเอา 192 มาจากไหนนนนน..... หรือ router มัน hard reset...ตรวจดูก็ไม่ใช่ครับ

หาอยู่หลายวันพบว่า มีคนนำอุปกรณ์จำพวก Router all in one มาเสียบใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต....มันก็เลยปล่อย IP 192.x.x.x ออกมา เป็นที่มาของปัญหานี้

แล้ว IP ที่ว่านี้คืออะไร เป็นคำถามที่ผมต้องอธิบายผู้บริหารให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเลยอธิบายแบบชาวบ้านว่า IP ก็เหมือนเลขที่บ้านของคอมพิวเตอร์ครับ ระบบจะส่งข้อมูลถูกเครื่องก็โดยอาศัยเลข IP นี้ ซึ่งเป็นเลข IP ที่ router เป็นคนจัดสรรให้ แต่ดันมีคนนำเอาอุปกรณ์บางอย่างซึ่งสามารถจัดสรรเลข IP ได้มาใช้ในวง LAN ทำให้เครื่องบางเครื่องสับสนรับ IP ผิดตัว ซึ่งเป็น IP ที่ router ไม่รู้จัก

????....  นั่นคือสิ่งที่ผุ้บริหารบอกผมทางหน้าตาครับ...งง

เอาใหม่ครับ IP คือเลขประจำเครื่องที่มาจาก 2 ลักษณะ คือ static IP และ FIX IP

static IP คือ IP ที่ไม่อยู่กับเครื่องเราตลอดไปครับ ระบบจะจัดสรรหมุนเวียนเปลี่ยนกันใช้ไปเรื่อยๆ ซึ่งคอมพิวเตอร์ของเราจะร้องหา (require) จากระบบทุกครั้งที่เราเปิดเครื่อง ถ้าไม่มีใครจ่ายคอมของเราก็จะสร้างเลขสุ่มขึ้นเองในหมวดที่ขึ้นต้นด้วย 169.x.x.x
FIX IP คือ IP ที่อยู่กับเครื่องนี้ตลอดไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะปิดเปิดเครื่องกี่ครั้ง ซึ่งก็แล้วแต่เราจะตั้ง แต่ช้าก่อน....

เลข IP ที่ว่านี่ ไม่ใช่ว่าจะตั้งอะไรก็ได้นะครับ เพราะมีหน่วยงานควบคุมเหมือนเลขที่บ้านหรือเลขทะเบียนรถครับ แต่เป็นระดับระหว่างชาติ หรือ International ครับ และเลข IP นี้ก็มีหลายหมวด แต่ละหมวดก็ใช้งานต่างกันไป ตั้งแต่ ISP ใช้ จนถึงชาวบ้านตาดำๆอย่างเราๆ

โดยปกติผุ้ให้บริหารอินเทอร์เน็ตก็จะจ่ายเลข IP มาให้เรา 1 ชุด ซึ่งส่วนมากมักเป็นไม่ถาวร หรือ Static IP นั่นเอง แต่หน่วยงานใหญ่ๆอาจจะมีความจำเป็นจะต้องใช้ FIX IP ก็สามารถขอใช้ได้จากผุ้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และแน่นอนต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ

เลข IP ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP จ่ายมาให้จะอยู่ที่ Router กล่องเหลี่ยมๆที่ช่างเอามาติดตั้งให้เรา แต่เครื่องในบ้านหรือในสำนักงานจะไม่ได้เลข IP จาก ISP นะครับ เพราะเขาให้ชุดเดียว....แล้วทีนี้จะทำยังไง???...ไม่ต้องสงสัยครับ (และไม่เคยมีใครสงสัย) ... Router ที่ช่างเอามาติดตั้งให้จะมีความสามารถในการจ่ายเลข IP ให้กับอุปกรณ์ในบ้านของเราโดยเป็นเลขอีกหมวดหนึ่งซึ่งสงวนไว้ใช้ในระบบ LAN (Local area network) ซึ่งเลขสำหรับ LAN นี้มักใช้อยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ขึ้นต้นด้วย 192 และกลุ่มที่ขึ้นด้วย 10

Router ที่ติดตั้งตามบ้านมักมีความสามารถไม่สูงนัก รองรับอุปกรณ์ได้ไม่กี่ชิ้น มักกำหนดเลข IP ในหมวด 192.168.1.x ให้กับอุปกรณ์ในบ้าน ความสามารถในการจัดสรรเลข IP นี้เรียกว่ากันติดปากว่า DHCP server

IP ในหมวด 192 นี้จะมี Subnet  mark อยู่แค่ class C คือ รองรับอุปกรณ์ได้แค่ 255 อุปกรณ์ตามทฤษฎี ซึ่งตามบ้านทั่วไปคงใช้ไม่หมด แต่หน่วยงานขนาดใหญ่จะใช้หมวด 10 เนื่องจากมี Subnet class เป็น class C (คิดแบบชาวบ้านนะครับ)......งงละสิ...

เอาแบบชาวบ้านรู้นะครับ...สังเกตุดูเลข IP 1 เลข จะมีจุดขั้นแบ่งเลขเป็น 4 ชุด....นั่นละครับ class ที่ว่า ชุดหลังสุดคือ class C ชุดรองสุดท้ายคือ class B ชุดที่ 2 คือ class A นอกจากเลข IP แล้วยังมีส่วนประกอบที่เรียกว่า Subnet mark ด้วย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเลข IP เลย แต่มักใส่เลขกันอยู่แค่ 2 ค่า คือ 255 กับ 0 (ใส่อย่างอื่นก็มีนะครับ เซียนเขาใช้กัน) เช่น 255.0.0.0 เป็นต้น ซึ่ง Subnet mark นี้ก็เปรียบได้กับการแบ่งชั้นวรรณะ ใครเลข 0 มากกว่าคนนั้นวรรณะสูงกว่า ประมาณนั้นนะ

ว่ากันแบบบ้านๆ คือ ถ้า subnet mark เป็น 255.255.255.0 แล้ว IP ที่จะใช้งานได้ในบ้านนี้คือ 3 ชุดหน้าต้องเหมือนกันเท่านั้น เช่น 10.1.1.1 ถึง 10.1.1.255 เป็นต้น แต่หาก subnet mark เป็น 255.0.0.0 นั่นหมายถึงเลข IP ต้องเหมือนกันเฉพาะชุดแรกเท่านั้น เช่น 10.1.1.255 ถึง 10.255.255.255 เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่า class A จะมีเลข IP ให้ใช้อย่างมากมายมหาศาล

แต่อย่างไรก็ดี IP ที่สงวนไว้ใช้สำหรับ LAN นั้นจะมี 2 หมวด คือ 192.168.x.x กับ 10.x.x.x ซึ่ง 2 ชุดนี้จะมองไม่เห็นกัน ดังนั้น ท่านผุ้อ่านคงเข้าใจแล้วว่า เวลาขโมยเครื่องจาก office กลับไปที่บ้านแล้วทำไมถึงเล่นอินเทอร์เน็ตไม่ได้ ก็เพราะหน่วยงานใหญ่มักใช้เลข IP หมวด 10 และมักใช้ระบบ FIX IP เพื่อการติดตามข้อมูลว่าใครโพสต์ด่าเจ้านายบ้าง 555+... ถ้าจะทำให้ใช้งานที่บ้านได้ก็ต้องตั้งค่า network หรือ ค่า IP ใหม่ให้ตรงกับ Router ที่บ้าน (ถ้าเขาไม่ล็อคไว้นะ)....อยู่ที่ทำงานใครชอบโพสต์ด่าเจ้านายก็ระวังนะครับบบบบบ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน...อิอิ..อิ..อิ

ปล. บทความข้างต้นเป็นเรื่องของ IP ชนิด IPV4 ซึ่งขณะนี้มี IPV6 ออกมาใช้เพื่อแก้ปัญหา IP เต็ม

ปล.2 บทความนี้พยายามอธิบายคนที่มีความรู้เรื่อง IP เป็นศูนย์ จึงพยายามละส่วนที่เป็นด้าน Technic ออกไป บางอย่างอาจไม่ถูกต้องนัก แต่ก็เพื่อความเข้าใจแบบเรียบง่าย หากจะนำไปใช้งานควรศึกษาเพิ่มเติมครับ

Bye...





วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ไป(เที่ยว)เชียงใหม่แบบ STBY



กว่าจะมาโพสต์ ผ่านไปเดือนนึงละ เนื่องจากงานเยอะมากกกกก....(กรุณาทำเสียงยาวๆนะครับ) ที่มาที่ไปคือ อยากเผยแพร่ข้อมูล(ชะตากรรม)การเดินทางของพนักงานสายการบิน(ไทย)รวมถึงครอบครัวพนักงาน(อย่างผม) ที่หลายๆท่านชอบบอกว่าบุคคลเหล่านี้เนี่ย...เส้นใหญ่...ลองตามมาดูครับ ใหญ่ไม่ใหญ่ตามมาดูครับ

ต้นเหตุคือคุณพ่อและผมมีแผนจะ(ต้อง)เดินทางไปเชียงใหม่เพื่อไปเตรียมบ้านพักที่สวนไว้เพื่อเป็นที่รวมญาติประจำปี คือ ทุกคนในครอบครัวของคุณปู่กับคุณย่าจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ไปรวมตัวกันที่บ้านสวน ถือโอกาสเที่ยวกันไปในตัวว่าอย่างนั้น และที่ผมต้องไปเพราะคุณพ่อต้องไป...ไปทำไม?...ทำไมต้องไปเตรียม?.....คำตอบคือ ชื่อก็บอกอยู่แล้ว บ้านสวน พอไม่มีคนดูแลสวนก็กลายเป็นป่าสิครับ วัชพืชสูงท่วมหัวเพราะได้รับน้ำฝนชุ่มฉ่ำตลอดฤดูฝน อยากบอกว่าสารพัดวัชพืชครับ....ไม่รู้กี่วันจะเสร็จ .... "*_* .....คำถามคือจะไปกันเมื่อไหร่...คุณพ่อบอกว่าแล้วแต่แกจะว่าง  นั่นนนนน.....สุดท้ายคุณพ่อไปก่อนครับ ไม่รอ ผมตามไปทีหลังเนื่องจากติดงานอลังการอยู่

ถามว่าตั๋วทำอย่างไร?...คำตอบคือก็ไปขึ้นตั๋วพนักงานตามปกติครับ แต่ด้วยเหตุข้างบนคือไม่รู้จะไปได้เมื่อไหร่ เขียนเอกสารขอออกตั๋วแล้วก็ยังคิดไม่ออก หาวันไปชัวร์ไม่ได้จนถึงคิวก็ยังคิดไม่ออก พี่พนักงานที่ออกตั๋วถามว่า ตั๋ว confirm ใช่ไหม?...ผมก็อึ้งครับ เพราะปกติตั๋วแบบนี้คำถามที่พี่เขาจะถามตามมาคือ ไปเที่ยวบินไหน? วันไหน?.....แง่กๆๆๆ (เสียงอะไรสักอย่างติดอยู่)   มัวแต่งงครับ รู้ตัวอีกทีคุณพ่อเดินมาใกล้ๆ พูดไม่ลังเล  standby ครับ....อ๊ะจ๊ากกกก นั่นไง!!! พ่อชอบจังงงง ตั๋ว standby เนี่ย

ปรากฎว่าวันที่ผมสามารถไปได้คือวันที่ 11 พ.ย. หลังเลิกงาน ผมพร้อมเดินทางเลย... ใช่แล้วครับสัปดาห์นี้เป็นวันลอยกระทง  555+ ...ไม่ได้รู้อะไรบ้างเลยยยยย.....ก่อนเลิกงานผมก็โกงเวลาทำงานเปิดดูสภาพเที่ยวบินวันศุกร์ซะหน่อย แบบขำๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นวันเดินทางที่เที่ยวบินมักเต็ม แต่ที่ตกใจมากคือวันเสาร์ก็ไม่มี วันอาทิตย์ก็ไม่มี...เฮ้ยๆๆๆ...เดี๋ยวๆๆๆ....ยังไงกันละทีนี้ รีบโทรไปบอกคุณป๊ะป๋าสิครับ ว่าอย่าคิดมากน้าาาา ถ้าไปไม่ได้อ่ะ....พ่อตอบกลับมาว่า ได้สิ!!..นั่น ช่างมั่นใจ

ผมตัดสินใจเดินทางวันเสาร์ กะว่าไหนๆก็ไหนๆ ไป list TG104 ละกัน .... อิอิ....มีแอบแฝง คืออยากลองของใหม่ A350 ....ไปถึงเคาเตอร์เช็คอิน ไปเลียบๆเคียงๆ พนักงานเห็นเอกสารเราก็บอกให้ไป list ก่อนนะคะ...ก็ไป list เที่ยวบินที่ห้องตั๋วครับ พนักงานถามจะ list เที่ยวไหน ผมเห็นผู้โดยสาร(ทั่วไป)เข้าแถวเช็คอินแล้วก็..นะ...  "102 ครับ" ตอบไปแบบนั้น เพราะคนเยอะมากๆๆๆๆ TG 102 เป็นเที่ยวเช้าสุด และใช้ 747 บิน น่าจะมีโอกาสที่ว่างมากกว่า....แอบเสียใจอดนั่ง A350 แน่แล้ว  เอานะหน้าที่ลูกสำคัญกว่า เดี๋ยวไม่ได้ไป คุณพ่อจะต้องตัดหญ้าคนเดียว

list ได้ก็กลับมาที่เคาเตอร์ครับ ..."102  102 อืมๆๆๆ" พนักงานพึมพัม "ค่ะ saet at gate นะคะ" นั่นไง ว่าแล้วทำหน้านิ่งๆแบบนี้


นี่เลยครับ TG102  SEAT SBY 555+ ลุ้นกันหน้าประตูเครื่องบินเลยครับ  ที่รอยปากกาเขียน ENTC นั่น ผมก็ไม่ทราบความหมายเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วสิทธิ์ตั๋วของผมเป็นประเภท R1 คือสามารถจองได้ครับ คือตรงที่ผมไปทำเรื่องออกตั๋วน่ะครับ และด้วยบารมีคุณพ่อที่ทำงานมานาน ตำแหน่งก็สูง เช็คตั๋วทีไรพี่ๆน้องๆที่เช็คตั๋วให้จะเข้าใจว่าพ่อเป็นกัปตัน... แต่นี่คือฤทธิ์ของตั๋ว standby ละครับ

เข้าไปได้เอาตั๋วไปยื่นที่ Gate พนักงานที่รับยื่นมือมารับและบอกว่า "มาอีกแล้วววว"....นั่น สังหรณ์ใจพิกล....แล้วก็จริงๆครับ ผู้โดยสารปกติขึ้นเครื่องไปหมดเหลือชาวตั๋ว ID ละครับ เรียงลำดับอาวุโสเรียบร้อยปรากฎว่า...ไม่ได้ไป....เวรกรรม เห็นตั๋วในมือคนที่จะมาแจกคืน จะเป็นลม ร่วม 20 ใบเห็นจะได้ แอบทราบว่าเที่ยวบินนี้ได้ไปแค่ 4 คน จัดลงกันเต็มที่ถึงกับให้นักบินที่ standby ตั๋วไว้ให้ไปนั่ง cockpit ด้วยเลย แต่ปรากฎว่านักบินมีครอบครัวรอไปด้วยเลยสละสิทธิ์ แต่ก็ไม่มีใครได้ไปครับ ด้วยเหตุผลความปลอดภัย

ไม่ได้ไปแล้วจะรออะไรรีบออกสิครับ ไป list เที่ยวใหม่ต่อไป...104  104  104 .....ปรากฎว่าไม่ทันครับ ดูแววแล้วน่าจะพลาดแล้ววันนี้ เพราะถัดจาก TG104 ก็มีเที่ยวต่อไปบ่ายเลย ทำไงดีละทีนี้...ไม่รู้จะทำยังไงก็ไปยืนมึนๆอยู่แถวเคาเตอร์เช็คอินครับ คิดในใจว่าบ่ายก็บ่าย เที่ยวไหนได้ไปขอให้ได้ไปสักเที่ยว ..และแล้ว...ปาฎิหารย์มีจริงครับ เที่ยวบินเสริม...555+ ยังกะรถทัวร์


นี่เลยครับ เที่ยวบินเสริม เลขเที่ยวบิน 4 หลัก 555+ แต่ก็ยังเป็น SBY เหมือนเดิมเลย ลุ้นหน้า Gate เหมือนเดิมเปี๊ยบ....โปรดสังเกตุ ขึ้นเครื่องประตูไหนไม่บอกซะด้วย ถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่า ก่อนเครื่องออกประมาณ 1 ชม. จะทราบเอง 555+

เวลาผ่านไปครับ ไปดูที่จอก็พบว่าเครื่องจอดที่ gate A6 ครับ หูยส์....สุดนู้นนนนนน เวลาเหลือมากมาย เดินเล่นในสนามบินที่ปกติต้อง วิ่งๆๆๆๆ  ดีเหมือนกันจะได้เห็นอะไรซะบ้าง แต่ทางมันช่างไกลเหลือเกินนน

 ถึงแล้วครับ Gate A6 สุด Concourse  พอดี มองเห็นรันเวย์ มีป้าอ้วน A330 ท่านอู่ทองจอดรออยู่ที่ Gate เห็นผู้โดยสารรอแล้วเพลียหัวใจเลยครับ ไม่มีที่จะนั่งรอเลย ดูด้วยสายตาไม่เต็มก็เกินละครับ

เอา boarding pass ไปยื่นที่ gate แล้วก็มารอดูเครื่องบิน Take off แต่พลาดนิดนึงช่วงนี้เครื่องขึ้นอีกทางครับ RWY01 เห็นแต่ตอนที่เครื่องลอยพ้นพื้นแล้ว...เฮ้อ...วันนี้วันอะไรหนอ


ในที่สุดก็ได้ไปครับ 57E คือเลขที่นั่ง    *_*  อีก 3 แถวเท่านั้นที่อยุ่ข้างหลังผม สุดยอดเเห่งความอบอุ่น แน่นทุกเก้าอี้ตามภาพ  จะถ่ายอะไรก็เกรงใจท่านข้างๆ นั่งนิ่งๆละกันครับ สุดท้ายก็ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพแบบลุ้นเหงื่อแตก นี่ละครับ พนักงาน+ครอบครัวพนักงาน เราไปกันแบบไม่คิดอะไรมาก ขอให้ได้ไปเถอะ ถึงสิทธิ์ตั๋วผมจะเป็น R1 นั่งได้ถึง business class แต่ก็นะ ติดมาจากคุณพ่อครับไม่คิดมาก ค่าตั๋ว confirm กับ standby ก็ไม่ได้ต่างกันมากโดยเฉพาะในประเทศแบบนี้...เอ๊ะ หรือคุณพ่อชอบความตื่นเต้น ลุ้น standby มันส์มากกกกก...

ปล. ที่อยากถามกันคือ ตั๋วพนักงานถูกกว่าธรรมดามากไหม?...ตอบตามที่รู้ (เพราะผมไม่รู้ว่าแต่ละท่านซื้อตั๋วได้ราคาเท่าไหร่) ว่า ค่าตั๋วผมพอกับ low cost ตอนแพงๆ ถ้าเป็น confirm สมัยก่อนเขาเรียก R75 คือลดจากปกติ 75% แต่...ไปดูขายตั๋วในเวปนะครับ แล้วท่านจะสงสัยเหมือนผม...ราคาตั๋วมันเท่าไหร่กันแน่ฟระ...แต่ตอนนี้ระบบนี้เปลี่ยนไปแล้วนะครับ(ตามที่เข้าใจ) คือ ยิ่งเข้าใจยากไปกันใหญ่ ดังนั้น...อย่าถาม!!! อยากรู้จริงๆไปสมัครเข้าทำงานเลยครับ รู้จริงแน่ทีนี้ 555+

บทความต่อไป ขากลับ จะบอกว่าสบายกว่านี้เยอะ มีรูปสวย